วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566

การบริหารงานตามขอบข่ายภารกิจตามโครงสร้างสถานศึกษา

การบริหารงานตามขอบข่ายภารกิจตามโครงสร้างสถานศึกษา จำแนกเป็น 4 ฝ่ายงาน ดังนี้

1. ด้านวิชาการ

โรงเรียนมีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ทั้งระดับการศึกษาปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาที่กระทรวงประกาศใช้ โดยมีการกำหนดเป้าหมายความสำเร็จตามมาตรฐานของสถานศึกษาภายใต้สถานการการติดต่อของโรคโคโรนาไวรัส 2019 (COVID-19) โดยคำนึงถึงความพร้อมและความปลอดภัยของนักเรียน และครูเป็นสำคัญ บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการและรับผิดชอบร่วมกัน การบริหารพัฒนาหลักสูตร การบริหารจัดการกระบวนการเรียนรู้ การจัดระบบและนิเทศการจัดการเรียนรู้ การจัดระบบและการประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน และการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ โดยมีการทำการรายงานผลการประเมินตนเอง และตามคำแนะนำของหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้นการวิจัยในชั้นเรียน ส่งเสริมให้มีนวัตรกรรมและการจัดการเรียนรู้ในรูปแลลผสมผสาน

2. ด้านบุคลากร

วางแผนจัดทำกิจกรรมการพัฒนาตนเองให้มีความรู้ มีทักษะใหม่ๆ เช่น การเข้าร่วมอบรม/ สัมมนาในรูปแบบออนไลน์ และจัดทำโครงการพัฒนาบุคากร กำหนดภาระงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งส่งเสริมบุคลากรเข้ารับการการอบรมพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพ โดยมีการรายงานผลการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปฏิบัติติงานและเก็บข้อมูลเป็นสารสนเทศบุคลากรของสถานศึกษา ส่งเสริมครูให้ใช้สื่อ เทคโนโลยี นวัตกรรมทางการศึกษา ทำให้ครูมีความรู้ มีความสามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลช่วยสอนนักเรียนให้เข้าใจบทเรียนเร็วขึ้น การส่งเสริมและพัฒนาด้านคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ และการเป็นผู้นำในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และให้บุคลากรมี ID Plan ทุกคน มุ่งให้บุคลกรสามารถจัดกิจกรรมพัฒนาเทคนิค/วิธีการจัดการเรียนรู้ พัฒนาสื่อ นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญสอดคล้องกับคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ เช่น จัดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ส่งเสริมด้านภาษาต่างประเทศ

3. การบริหารงานงบประมาณ การเงินและสินทรัพย์

ปรับเปลี่ยน ปรับปรุง แก้ไข แผนปฏิบัติราชการประจำปี และการบริหารจัดการด้านบัญชี การควบคุมเงินงบประมาณ รายได้สถานศึกษา ให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ โรงเรียนจัดทำคำสั่งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบด้านการเงินและสินทรัพย์ตามหมวดบริหารงานด้านงบประมาณ การให้ความร่วมมือ และรับข้อเสนอแนะจากำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในระเบียบใหม่เพื่อให้บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง สามารถจัดทำบันทึกรายการควบคุมเงินของสถานศึกษา มีหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน มีการบริหารจัดการพัสดุ มีรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณ และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการการเงิน และสินทรัพย์ ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นปัจจุบัน

4. การบริหารงานทั่วไป การจัดระบบประกันคุณภาพ และนำผลการประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพสถานศึกษาโดยการปรับเปลี่ยนและกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบายและแผนกลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับการสถานการณ์การเกิดโรคระบาด COVID-19 มีการจัดทำแผนเพื่อให้การสร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของครู บุคลากรในสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชน และสังคม โรงเรียนตระหนักถึงความสำคัญถึงคุณภาพชีวิตของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียน ในสถานการณ์โรคระบาดโคโรนาไวรัส 2019 จึงเป็นสิ่งสำคัญต้องเร่งการปรับตัวเพื่อให้เกิดทักษะที่สามารถใช้ชีวิตให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่มีทั้งดี และเป็นอันตราย โดยเฉพาะการใช้สื่อที่มีอยู่ให้เกิดคุณประโยชน์กับนักเรียน มีการกิจกรรมอย่างหลากหลายที่ส่งเสริม สนับสนุน ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทุกรูปแบบ จัดกิจกรรมที่เน้นคุณธรรมจริยธรรมและวินัยพื้นฐานให้แก่นักเรียน เช่นการตรงต่อเวลา ความมีน้ำใจ มีความรับผิดชอบ ความกตัญญูกตเวที ความสามัคคีในหมู่คณะ การช่วยเหลือแบ่งปันและเห็นอกเห็นใจซึ่งกันละกัน มีความอดทน

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2565

โครงการส่งเสริมทักษะชีวิตสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น


นายวิจิตร เกิ้งบุรี เปิด กิจกรรมโครงการ การ อบรม “ ส่งเสริมทักษะชีวิต สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยการสนับสนุนงบประมาณจากเทศบาลตำบล ท่าสายจํานวน 30000 บาท การจัดกิจกรรมได้แบ่งเป็น ฐานกิจกรรมการเรียนรู้ ทั้งหมด 8 ฐาน ได้แก่
1. ฐานกิจรรมการทำผ้ามัด ย้อม
2. ฐานกิจกรรมการทําขนมกลีบลำดวน 3. ฐานกิจรรมการจับจีบผ้า
4. ฐานกิจรรมการจักสานเส้นพลาสติก 5. ฐานกิจรรมการ ทำกระถางดอกไม้จากยาง รถยนต์
6.ฐานกิจรรมการ ทำขนมไดฟูกุ
7. ฐานกิจกร รมการทำเทียนหอม
8. ฐาน กิจร รม การ ทำปุ๋ยหมักจากวัสดุธรรมชาติ
โดยมี วัตถุประสงค์ของการจัด กิจกรรมส่งเสริมทักษะชีวิต สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น คือ
1.เพื่อเสริมสร้างทักษะ อาชีพให้กับนักเรียน
2.เพื่อ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้คงอยู่สืบไป

โครงการสืบสานศาสตร์พระราชาสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรม


                      โรงเรียนบ้านหัวดอย ได้กำหนดการจัดกิจกรรม “ โครงการสืบสานศาสตร์พระราชาสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรม ” ระหว่างวันที่ 12-13 สิงหาคม 2565 การสร้างจิตสำนึกความเป็นไทยให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงความเป็นชาติไทย สิ่งสำคัญประการหนึ่ง คือ การได้เรียนรู้ในด้านดนตรี นาฏศิลป์ ไทยสากลและพื้นบ้าน เนื่องจากเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษไทย โดยผสมผสานภูมิปัญญาในแต่ละเรื่องไว้อย่างกลมกลืน โดยเด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ถึงความเป็นมา รู้คุณค่า และเกิดทักษะทางด้านดนตรีนาฏศิลป์ไทยและพื้นบ้าน จะทำให้เกิดความซาบซึ้ง และหวงแหน อนุรักษ์สืบทอดวัฒนธรรมท้องถิ่นสืบไป

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Computing & ICT Literacy (3R8C)


Career & Learning Skills  คือ ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารCompassion คือ ความมีเมตตา กรุณา มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม

ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ที่เน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการแข่งขันนั้น จำเป็นต้องพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) เพื่อให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิดเชิงวิเคราะห์ คิดอย่างเป็นระบบด้วยเหตุผลอย่างเป็นขั้น เป็นตอนเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ สามารถนำไปปรับใช้เพื่อแก้ไขปัญหาในสาขาวิชาต่างๆ ได้ทั้ง คณิตศาสตร์  หรือ วิชาอื่นๆ

Computational Thinking (CT) เป็นกระบวนการคิดที่ต้องใช้ทักษะและเทคนิคเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเช่นที่ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) หรือวิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) ใช้ในการเขียนโปรแกรม ซึ่งแก่นแท้คือการแก้ปัญหาแบบมีลำดับขั้นตอนให้กลายเป็นเรื่องที่สายอาชีพอื่น ๆ สามารถนำแนวคิดลำดับขั้นตอนไปแก้ปัญหา ในเชิงนามธรรม อย่างเช่นการจัดการการสื่อสารด้านประชาสัมพันธ์เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างความรู้ความเข้าใจ ก่อให้เกิดโอกาสในการศึกษาเรียนรู้ 



วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

โครงการอบรมพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน ตำบลท่าสาย

             วันที่  31 พฤษภาคม 2565  นายวิจิตร  เกิ้งบุรี  นายกเทศมนตรีตำบลท่าสาย  ได้กล่าวเปิดกิจกรรมโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนตำบลท่าสาย  โดยการสนับสนุนงบประมาณจากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย เพื่อจัดอบรมให้ความรู้นักเรียนระดับชั้นมัธยม เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนตำบลท่าสาย  ได้พัฒนาตนเองซึ่งปัจจุบันปัญหาที่พบจากการติดเกมส์  หรือการเสพสื่อ  ส่งผลต่พฤติกรรมเช่นไม่ค่อยมีสมาธิ  ขาดการอดทนรอคอย  ขาดการฝึกทักษะทางสังคมกับเพื่อน   แยกตัวออกจากกลุ่ม  หรือผู้อื่น  เลียนแบบพฤติกรรมก้าวร้าว  ความรุนแรง  ทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อน  พ่อแม่  ผู้ปกครอง  และเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว  ทุกหน่วยงานจึงได้บูรณาการร่วมกันส่งเสริมการทํางานของสภาเด็กเยาวชน โดยมีมีวัตถุประสงค์  ดังนี้ 
  1. เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนตั้งเป้าหมายในชีวิต 
  2. เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ มีภูมิคุ้มกันรู้เท่าทันสื่อ 
  3. เพื่อส่งเสริมให้เด็กเยาวชนเข้าใจบทบาทหน้าที่ของลูกในยุคดิจิทัลเพื่อส่งเสริมให้เด็กยุคใหม่รู้รักสามัคคีมีคุณธรรม อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

โครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้สารเสพติดในเด็กนักเรียน 2565

สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ได้พิจารณาให้ สิบตำรวจเอก ทิวากร เนตรวัน ผู้สำเร็จหลักสูตรโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน นำหลักสูตรโครงการเข้าทำการสอนนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๔ จำนวน ๑ ห้องเรียน  และนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๑ ห้องเรียน โดยใช้เวลาทำการสอน ๑๓ ชั่วโมง ต่อ 1 ห้องเรียน